ผู้เขียน หัวข้อ: รากฟันเทียมทั้งปาก: การดูแลตัวเองหลังใส่รากฟันเทียม  (อ่าน 171 ครั้ง)

siritidaphon

  • Newbie
  • *
  • กระทู้: 30
    • ดูรายละเอียด
หลังจากรับบริการจากทันตแพทย์หรือศัลยแพทย์ช่องปากมาในแต่ละขั้นตอน และยังคงอยู่ในระหว่างกระบวนการรักษา อาจต้องระมัดระวังแผลผ่าตัดให้ดีจนกว่าจะเสร็จสิ้นกระบวนการใส่รากฟันเทียม ดังนี้

    ควรกินอาหารอ่อนๆ โดยเฉพาะบริเวณที่รับการผ่าตัดใส่รากฟันเทียม
    สามารถกินยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการ รวมถึงใช้ยาปฏิชีวนะป้องกันการติดเชื้อตามที่ศัลยแพทย์แนะนำ
    ควรไปพบศัลยแพทย์ช่องปากตามนัดในกรณีที่ต้องตัดไหม
    งดสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้แผลหายช้าและเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแทรกซ้อนได้

ผู้รับบริการสามารถขอคำแนะนำจากศัลยแพทย์ช่องปากถึงอาหาร และพฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง รวมถึงการดูแลรักษาความสะอาดให้เหมาะสมด้วย
ข้อดีของการทำรากฟันเทียม


การทำรากฟันเทียมมีข้อดีหลายข้อ ดังนี้

    ใช้ทดแทนรากฟันธรรมชาติได้ใกล้เคียงที่สุด รากฟันเทียมฝังลึกลงไปถึงกระดูกขากรรไกร ผู้ที่ใส่รากฟันเทียมจึงรู้สึกราวกับรากฟันเทียมเป็นส่วนหนึ่งของร่างกาย ต่างกับฟันปลอมแบบถอดได้ หรือสะพานฟันตรงตำแหน่งฟันลอย
    ช่วยลดโอกาสเกิดฟันล้ม โดยปกติหากฟันธรรมชาติสูญหายไปและไม่ได้รับการรักษาทดแทน อาจทำให้ฟันซี่อื่นๆ เคลื่อนออกจากตำแหน่งเดิมจนเกิดปัญหาฟันล้มได้
    ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ผู้ที่สูญเสียฟัน รากฟันเทียมเป็นเหมือนเสาค้ำยันที่แข็งแรงกว่าฟันธรรมชาติ ผู้รับบริการสามารถเลือกใส่ครอบฟันหรือสะพานฟันด้านบนเพื่อให้ช่องปากดูเป็นปกติ และใช้งานได้เหมือนเดิม
    ช่วยให้พูดได้เป็นปกติมากขึ้น รากฟันเทียมที่เสร็จสิ้นการรักษาแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนตอนที่ยังมีฟันตามธรรมชาติอยู่
    ช่วยให้กินอาหารได้เป็นปกติขึ้น รากฟันเทียมจะติดแน่นกับเหงือกเหมือนรากฟันธรรมชาติ ทำให้ไม่เคลื่อนที่ไปมาเหมือนฟันปลอมถอดได้ ช่วยให้เคี้ยวอาหารได้ปกติยิ่งขึ้น
    ช่วยให้มีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น รากฟันเทียมไม่จำเป็นต้องกรอฟันซี่อื่นเหมือนการใส่สะพานฟันที่ต้องกรอฟันซี่ข้างๆ เพื่อเป็นหลักยึด นอกจากนี้รากฟันเทียมยังดูแลรักษาความสะอาดได้ง่ายเหมือนฟันธรรมชาติ
    มีความทนทานสูง หากดูแลรักษาความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่มีอาการแทรกซ้อนใดๆ เช่น โรคเหงือก รากฟันเทียมอาจใช้งานได้ตลอดชีวิต
    ใช้ชีวิตประจำวันได้ง่าย ผู้ที่ใส่รากฟันเทียมไม่ต้องคอยถอด ใส่ เหมือนกับฟันปลอมแบบถอดได้

ข้อดีโดยสรุปของการทำรากฟันเทียม คือช่วยให้ผู้รับบริการกลับมามีสภาพฟันที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากที่สุด ทั้งภาพลักษณ์ และการใช้งานที่แข็งแรง
ข้อเสียของการทำรากฟันเทียม


ข้อเสีย และข้อจำกัดของการทำรากฟันเทียม อาจมีดังนี้

    ค่าใช้จ่ายสูงกว่าการทำฟันปลอมทั่วไป
    ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปีไม่สามารถทำรากฟันเทียมได้ เนื่องจากกระดูกขากรรไกรยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่
    ระยะเวลาในการรักษาค่อนข้างนาน บางกรณีอาจใช้เวลาถึง 1 ปี โดยเฉพาะผู้ที่ต้องปลูกกระดูกสันเหงือกเพิ่มเติม
    ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวานที่ยังไม่สามารถควบคุมอาการได้ โรคปริทันต์อักเสบรุนแรง โรคไฮเปอร์ไทรอยด์ ผู้ที่มีอาการไขข้ออักเสบรุนแรง ผู้ที่มีปัญหาเรื่องการควบคุมกล้ามเนื้อ ฯลฯ จำเป็นต้องมีการปรึกษาแพทย์อย่างใกล้ชิด
    ผู้ที่สูบบุหรี่หรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มักประสบปัญหากระดูกไม่ผสานกับรากฟันเทียม และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้มากกว่าปกติ

ดังนั้น แม้การทำรากฟันเทียมจะมีข้อดีมากมาย และดูเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในระยะยาว แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรพิจารณาร่วมกันด้วยมากมาย ทางที่ดีควรดูข้อมูลของทางเลือกต่างๆ เช่น สะพานฟัน ฟันปลอมแบบถอดได้ ประกอบการพิจารณาร่วมกันกับทันตแพทย์ด้วย


ทำรากฟันเทียมยี่ห้อไหนดี?

รากฟันเทียมมีหลายยี่ห้อ แต่ละยี่ห้อก็จะมีระดับราคาและคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งที่ผลิตในประเทศไทย เอเชีย และยุโรป ซึ่งแต่ละประเทศก็จะใช้นวัตกรรมที่แตกต่างกัน

แต่หลักเกณฑ์สำคัญที่ใช้ในการเลือกรากฟันเทียม ได้แก่ ความแข็งแรง ทนทาน ความสามารถในการยึดเกาะกับกระดูก และการรับประกัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด


ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม?

ส่วนใหญ่จะรู้สึกเจ็บขณะที่ฉีดยาชา แต่ขณะทำจะไม่รู้สึกเจ็บ และจะมีอาการปวดบวมอีกครั้งหลังจากทำเสร็จแล้ว ซึ่งทันตแพทย์จะแนะนำให้รับประทานยาแก้ปวดตามความเหมาะสม และอาการจะค่อยๆ ทุเลาลงตามลำดับ


ทำรากฟันเทียมอันตรายไหม?

หลายคนอาจกังวลว่ามีการฝังวัสดุลงไปในกระดูกขากรรไกร จะเป็นอันตรายหรือไม่ โดยหลักแล้วหากทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะมีความปลอดภัยสูงและไม่อันตราย

แต่การทำรากฟันเทียมก็มีความเสี่ยงเช่นกัน เช่น ติดเชื้อในตำแหน่งที่ฝังรากฟัน หรือขณะฝังรากเทียมอาจทำให้ฟันข้างเคียงเส้นเลือด หรือเส้นประสาทบาดเจ็บจนเกิดความรู้สึกเจ็บปวด หรือชา เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม แม้ผลลัพธ์ในการรักษาด้วยรากฟันเทียมนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งตำแหน่งที่ใส่รากฟันเทียม การดูแลรักษา และอื่นๆ แต่โดยปกติแล้วการทำรากฟันเทียมมีอัตราความสำเร็จในการรักษาสูงถึง 98% หากดูแลอย่างเหมาะสม และทำโดยทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ


ใส่รากฟันเทียมแล้วจัดฟันได้ไหม?

ตามปกติทันตแพทย์จะแนะนำให้จัดฟันให้เสร็จเรียบร้อยก่อนจึงค่อยทำรากฟันเทียม เนื่องจากรากฟันเทียมจะไม่สามารถเคลื่อนที่ได้เหมือนฟันธรรมชาติ

แต่หากตำแหน่งที่ต้องการฝังรากฟันไม่ใช่ตำแหน่งที่ต้องเคลื่อนที่ ทันตแพทย์ก็อาจพิจารณาให้ทำรากฟันเทียมก่อนการจัดฟันได้


การดูแลรักษารากฟันเทียม?

การดูแลรักษาความสะอาดของรากฟันเทียมนั้นไม่แตกต่างกับการดูแลช่องปากตามปกติ โดยการ

    แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง อาจปรึกษาทันตแพทย์ถึงประเภทแปรงสีฟันที่เหมาะสม
    ใช้ไหมขัดฟันเป็นประจำทุกวัน
    ใช้น้ำยาบ้วนปากฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
    หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง เช่น น้ำแข็ง กระดูก
    หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และยาสูบประเภทอื่นๆ
    ไม่ควรใช้ฟันเพื่อจุดประสงค์ที่ไม่เหมาะสม เช่น เปิดกระป๋อง
    ไปพบทันตแพทย์เป็นประจำ

โดยสรุปแล้ว การใส่รากฟันเทียมเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สูญเสียฟันแท้ตามธรรมชาติไป และต้องการใส่ฟันทดแทนที่แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้เหมือนฟันปกติ เงื่อนไขสำคัญในการทำรากฟันเทียมคือต้องมีสุขภาพดี ไม่มีโรคประจำตัวร้ายแรง และสามารถไปพบทันตแพทย์ได้หลายครั้งตลอดการรักษา



รากฟันเทียมทั้งปาก: การดูแลตัวเองหลังใส่รากฟันเทียม อ่านบทความเพิ่มเติมคลิ๊กที่นี่ https://bit.ly/3P3AQ21

 

ลงประกาศฟรี ติดหน้าแรก google โพสต์ฟรี ลงโฆษณาฟรี ขายบ้าน ขายที่ดิน ขายคอนโด ขายรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ สถานที่ท่องเที่ยว วัตถุดิบทางการเกษตร ขายปลีก -ขายส่ง เว็บประกาศฟรี ติดอันดับ Google