มอเตอร์โชว์ ขับรถ EV อย่างไรถึงจะปลอดภัย? กับ Volvo Electric Vehicle Driving Aca

มอเตอร์โชว์ ขับรถ EV อย่างไรถึงจะปลอดภัย? กับ Volvo Electric Vehicle Driving Academy

Volvo Electric Vehicle Driving Academy แบบฝึกหัดการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าให้ปลอดภัย พร้อมตอบข้อสงสัยที่มือใหม่ผู้ใช้รถไฟฟ้าควรรู้ เปิดให้บุคคลทั่วไปลงทะเบียนแล้ว มาดูกันว่าการอบรมครั้งนี้จะมีอะไรกันบ้าง
 

ทุกวันนี้ รถยนต์ไฟฟ้าเข้าถึงผู้คนมากขึ้น หลายคนเลือกใช้รถประเภทนี้กันอย่างแพร่หลาย เนื่องด้วยความต้องการรักษาสิ่งแวดล้อมของค่ายรถต่าง ๆ รวมถึงมาตรการรัฐที่สนับสนุน
 
สิ่งที่ควรรู้ไว้คือรถยนต์ไฟฟ้า แตกต่างจากรถเครื่องยนต์สันดาปอยู่หลายประการ ทั้งระบบขับเคลื่อน น้ำหนักรถ โครงสร้างการถ่ายเทน้ำหนัก ส่งผลให้การขับขี่มีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร และส่งผลให้เกิดอุบัติเหตุที่รุนแรงกว่ารถน้ำมัน
 
Volvo หนึ่งในค่ายรถยนต์ที่ต้องการมุ่งทำรถยนต์ไฟฟ้าอย่างเต็มตัว ตระหนักถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ และต้องการสร้างความเข้าใจในรถยนต์ไฟฟ้าแก่บุคคลทั่วไปให้มากขึ้น
 
จึงเป็นที่มาของกิจกรรม Volvo Electric Vehicle Driving Academy ในปีนี้ ซึ่งเป็นการฝึกอบรมให้บุคคลทั่วไปสามารถควบคุมรถ EV ผ่านการจำลองสถานการณ์ต่าง ๆ ที่อาจพบได้ในชีวิตประจำวัน ณ สนามปทุมธานีสปีดเวย์ ตั้งแต่วันที่ 13-19 ส.ค. นี้
 
ทางเรา Checkraka.com มีโอกาสได้เข้าร่วมกิจกรรมนี้ จึงนำมาบอกต่อให้แก่ผู้ที่สนใจ มาดูกันว่า กิจกรรมนี้จะพาเราไปรู้จักกับรถยนต์ไฟฟ้าให้มากขึ้นอย่างไรบ้าง
 

บรีฟข้อมูล
 
ก่อนจะขับรถกันเราต้องมีการบรีฟข้อมูลกันก่อน ส่วนนี้จะเป็นการให้ข้อมูลเบื้องต้นเกียวกับรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงการตอบคำถามพบบ่อยที่หลายคนสงสัยในรถ EV แบ่งเป็นพาร์ทต่าง ๆ ดังนี้
 

Basic EV Knowledge
 
ส่วนนี้จะเป็นการให้ความรู้เบื้องต้นของรถยนต์ไฟฟ้า โดยจะใช้ข้อมูลจาก Volvo EX30 รถที่ใช้ในกิจกรรมนี้ ซึ่งประกอบด้วยข้อมูลทั้งหัวชาร์จแบบต่าง ๆ, การติดตั้งเครื่องชาร์จที่บ้าน, มาตรฐานวัดระยะทางขับขี่รูปแบบต่าง ๆ (CLTC/NEDC/WLTP) รวมถึงมีการเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายการเดินทางของรถยนต์ไฟฟ้าเทียบรถน้ำมันอีกด้วย
 
นอกจากนี้ ภายในงานยังตอบข้อสงสัยที่พบบ่อยเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้า (FAQ) ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานรถอีวีหรือผู้ที่สนใจได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมากยิ่งขึ้น


สเปค Volvo EX30
 
กิจกรรมครั้งนี้จะใช้ Volvo EX30 ทดสอบภายใต้สถานการณ์ต่าง ๆ ทั้งหมด ทั้งในรุ่นขับหลังมอเตอร์เดี่ยว Single Motor Ultra และรุ่นขับสี่มอเตอร์คู่ Twin Motor Performance มีสเปค ดังนี้
 
มอเตอร์เดี่ยว Single Motor ขับเคลื่อนล้อหลัง มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิด 343 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 69 kWh งไกลสุด 540 กม. (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 5.3 วินาที
มอเตอร์คู่ Twin Motor ขับเคลื่อน 4 ล้อ มอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลังสูงสุดที่ 428 แรงม้า แรงบิด 543 นิวตันเมตร ความจุแบตเตอรี่ 69 kWh วิ่งไกลสุด 520 กม. (NEDC) อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.6 วินาที
 
สำหรับการชาร์จ ทั้งสองรุ่นใช้หัวชาร์จ CCS Type 2 สามารถชาร์จ AC ที่ความเร็วสูงสุด 11 kW จาก 0-100% ได้เร็วสุด 8 ชั่วโมง ส่วนการชาร์จเร็ว DC ที่ความเร็วสูงสุด 175 kW ชาร์จแบตเตอรี่ 10-80% ได้ภายใน 28 นาที
 
อย่างไรก็ตาม นอกจากความรู้พื้นฐานรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว สิ่งที่ควรทำให้ถูกต้องคือ ท่าทางการขับขี่รถยนต์ โดยจะต้องปรับให้พอดี สามารถควบคุมแป้นเบรค/คันเร่ง พวงมาลัย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเป็นส่วนของท่านั่งขับขี่ การปรับความสูง/ต่ำพวงมาลัย ไปจนถึงการจับพวงมาลัย
 
Volvo EX30 ยังมาพร้อมระบบความปลอดภัยที่ช่วยป้องกันผู้โดยสารจากอุบัติเหตุมากมาย ซึ่งเราจะได้เรียนรู้ว่าระบบช่วยเหลือเหล่านี้ทำงานอย่างไรในการอบรมครั้งนี้ด้วย

 
ระยะเบรค Emergency Braking
 
การอบรมครั้งนี้ยังกล่าวถึงการเบรคฉุกเฉิน (Emergency Braking) โดยปกติแล้ว คนทั่วไปจะมีระยะเวลาตอบสนองเท่า ๆ กันในทุกความเร็ว ดังนั้น เมื่อเราใช้ความเร็วเพิ่มขึ้น นั่นหมายความว่าเราจะต้องเผื่อระยะเบรคฉุกเฉินให้มากขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อเป็นรถยนต์ไฟฟ้าที่มีน้ำหนักรถเฉลี่ยมากกว่ารถน้ำมันก็จะต้องเผื่อระยะให้มากขึ้น 
 

Physical of Driving
 
หนึ่งในสิ่งที่ควรรู้เบื้องต้นสำหรับการขับขี่รถยนต์คือ Physical of Driving ซึ่งเป็นหลักการของแรงที่เกิดขึ้นเมื่อขับขี่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น เมื่อเร่งความเร็ว EX30 รุ่น Twin Motor จะมีแรงขับเคลื่อนที่ล้อหลังมากกว่าด้านหน้า และน้ำหนักจะถ่ายเทไปด้านหลัง, การเบรคที่น้ำหนักจะถ่ายเทมาที่ด้านหน้า รวมถึงการเลี้ยวที่หากเลี้ยวซ้ายน้ำหนักจะถ่ายเทไปด้านขวา หากเลี้ยวขวาก็จะกลับกัน
 
การอบรมครั้งนี้ Volvo EX30 ได้รับการสนับสนุนด้วยยาง Goodyear EfficientGrip PERFORMANCE SUV มีโครงสร้างยางที่แข็งแรงและน้ำหนักเบา พร้อมเทคโนโลยี QuietTred, FlexContact และ Advanced Compounding ให้สมรรถนะที่ดี แต่ยังคงความนุ่มเงียบสมเป็น SUV พรีเมียม
 

Station อบรมขับขี่รถ EV ให้ปลอดภัย ทั้ง 5 ฐาน
 
สำหรับ Station อบรมการขับขี่มีทั้งหมด 5 ฐาน เรียงตามที่ผู้เขียนเข้าร่วมกิจกรรม ดังนี้
 
Group Warm Up
 
ในฐานแรกเป็นการทำความรู้จักกับรถก่อน เริ่มด้วยการเหยียบคันเร่งจนมิดและเบรคกะทันหันในจุดที่กำหนด เพื่อให้คุ้นเคยกับน้ำหนักการเบรค ต่อมาจะเป็นการสลาลอมที่ทำให้เราคุ้นเคยกับน้ำหนักพวงมาลัยของรถมากขึ้น ที่ความเร็วประมาณ 35-40 กม./ชม.

Moose Test
 
ต่อมาจะเข้าสู่ฐาน Moose Test เป็นมาตรฐานการทดสอบที่เริ่มต้นขึ้นจากประเทศในแถบสแกนดิเนเวีย (บ้านเกิด Volvo) เพื่อทดสอบรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน คล้ายการเปลี่ยนเลนกะทันหัน แต่มีการเปลี่ยนไปและเปลี่ยนกลับมายังเลนเดิม
 
ในฐานนี้จะใช้ EX30 รุ่นขับสี่ Twin Motor Performance ที่ความเร็วต่าง ๆ ตั้งแต่ 50-60++ กม./ชม. จำลองสถานการณ์เหมือนมีกวางมูสที่ยืนขวางเลนรถของเราและต้องเบี่ยงหลบไปยังเลนสวน ขณะเดียวกันก็ต้องกลับเข้าเลนตัวเองเพราะรถสวนมาพอดี
 
สเตชั่นนี้เป็นการฝึกควบคุมพวงมาลัยให้นุ่มนวลมากที่สุด ทำให้รถไม่เสียอาการจนเสียหลักเมื่อเกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้นมา
 

Avoiding Obstacles
 
สถานีนี้เป็นการจำลองสถานการณ์หลบสิ่งกีดขวางที่เกิดขึ้นกะทันหัน เช่น ขณะขับต่อหลังรถบรรทุกก็มีของหล่นออกมาจากท้ายรถซึ่งเราจะต้องหักหลบ
 
เราจะต้องใช้ EX30 รุ่นขับหลัง Single Motor เพื่อหักหลบกรวยไปทางซ้าย สลับกับทางขวาที่ความเร็วตั้งแต่ 50-60+ กม./ชม. โดยทางซ้ายจะหักหลบได้ง่ายกว่าทางขวาเล็กน้อยเพราะตอนหักซ้ายกรวยจะอยู่ใกล้ตัวซึ่งเราจะกะระยะได้แม่นยำกว่า
 

Braking And Avoiding
 
สำหรับสเตชันนี้เป็นการเบรคฉุกเฉินที่ต้องหยุดรถให้สนิท เช่น สถานการณ์ที่ป้ายขนาดใหญ่หรือต้นไม้ล้มขวางทาง เริ่มด้วยการเร่งที่ความเร็ว 50-60+ กม./ชม. แล้วเบี่ยงซ้ายตามกรวยพร้อมกดเบรคจนสุด จำลองสถานการณ์ว่าไม่ให้ชนสิ่งกีดขวางด้านหน้า
 
 
Understeer
 
สเตชันสุดท้ายคือการควบคุมรถขณะเข้าโค้งรูปครึ่งวงกลม ในความเร็วตั้งแต่ 40-60+ กม./ชม. เราจะเห็นอาการหน้าดื้อหรือ understeer ของรถที่มากขึ้นตามความเร็ว บนพื้นเปียกที่ทาง Volvo จะราดน้ำไว้ให้ด้วย
 
เริ่มจากความเร็ว 40 กม./ชม. รถยังไม่มีอาการใด ๆ ต่อมาที่ 50 กม./ชม. รถจะมีอาการมากขึ้น เราจะต้องแตะเบรคที่กลางโค้งพร้อมกับมองที่กรวยบริเวณโค้งด้านในและหักเลี้ยวเพิ่มขึ้น สุดท้ายที่ความเร็ว 60 กม./ชม. จะต้องเบรคกะทันหันพร้อมหักพวงมาลัยเพิ่มที่กลางโค้ง เพื่อให้ระบบ ESC ช่วยให้รถกลับเข้าโค้งก่อนจะขับต่อไป
 

สรุป: มือใหม่หัดใช้ EV ควรเรียนคอร์สนี้
 
Volvo Electric Vehicle Driving Academy คือคอร์สอบรมการใช้รถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่ม ปูพื้นฐานได้ตั้งแต่ความรู้เบื้องต้น ตอบข้อสงสัยที่พบบ่อย รวมถึงสอนการขับขี่เบื้องต้นให้แก่บุคคลทั่วไป
 
หากใครที่สนใจคอร์สรถยนต์ไฟฟ้าที่ครบครันเช่นนี้ สามารถลงทะเบียนกับทาง Volvo Thailand ได้เลย โดยงานมีตั้งแต่วันที่ 13-19 ส.ค. นี้เท่านั้น

 

ลงประกาศฟรี ติดอันดับ Google โฆษณาสินค้าฟรี ลงประกาศขายบ้านฟรี ลงประกาศขายบ้าน ลงประกาศขายที่ดินฟรี ลงประกาศขายคอนโดฟรี ขายรถ สินค้าอุตสาหกรรม อาหารเสริม เครื่องสำอางค์ แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว โปรโมทเว็บไซต์ google หน้าแรก